วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553

กลับมาอีกครั้ง!!

กลับมาแล้วครับ
สำหรับบทความในบล็อกช่อชมนาดแห่งนี้
หลังจากร้างราไปเนิ่นนาน และดำเนินโดยผิดแผกจากจุดประสงค์ในการเขียนบล็อกนี้
ที่หวังใจว่า จะแต้มสีวรรณศิลป์ให้หอมระรินยวลใจ
แบบเบาๆ ชื่นใจเหมือนกลิ่นดอกชมนาด
แต่โดยเหตุสุดวิสัย บล็อกนี้ก็ถูก"ระบาย"ด้วยเรื่องราวของชีวิตคนคนหนึ่งที่ไม่ค่อยจะเป็นวรรณศิลป์นัก
"กลับมาแล้วครับ"
และพร้อมดำเนินตามหัวใจของบล็อกนี้ตามเดิม

วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2552

ระบาย 4

(รูปอะใส่ไปงั้นละไม่เกี่ยวหรอก น่ารักดี )
กลับมาแล้วกับ บทความต่อเนื่อง ...ระบาย... ไร้ความไพเราะอีกเช่ยเคย ก็อย่างว่าที่นี่กลายเป็นวมุดบันทึกเล่มเล็กๆของเราซะแล้ว
วันนี้ไปสอบสอวน.มาแล้ว จะบอกว่า
เฮ้อ.....ตัวเรา...ก็เท่านี้
เมื่อไหร่หนอ "ซักวันที่เป็นวันของฉันบ้าง "
เราลงทุนตั้งมากมายตามสัญญาที่ว่าไว้ แต่ไหนเลยฟ้ากลับช่างไม่ยุติธรรม
.........ทำไมไม่เห็นใจบ้างเลย.... บางคนที่ไม่ตั้งใจ กลับ....
เฮ้อ!!!
อีกแล้วกับการขอโอกาสที่จะทำตามฝันอีกครั้ง มันแค่สุดปลายมือ ที่เอื้อม...ไม่ถึง
ถ้าอีกครั้งที่คำอธิฐานบนโลกออนไลน์จะยังก้องไกลไปยังที่ไหนซักแห่งบนฟากฟ้า
เราเสียอะไรไปมากมาย ลงทุนด้วยใจรัก
ยอมทนปัญหาต่างๆ ที่ทำให้แม้คนรอบข้างก็เจ็บปวด
เพียงเพื่อจะเดินไปตามความฝัน...ตั้งแต่เด็ก......
และเพื่อให้คนที่เรารักไม่ต้อง..ผิดหวัง..
อยากขอโอกาสอีกครั้ง ขอปาฏิหาริย์ ให้เราได้กลับไปตามความฝัน
เราสัญญาว่าจะต้องมีวันนั้น วันที่เราพร้อมเดินทางไปกับความมั่นใจที่เติมล้น ...สู่ขอนแก่น
และจะกลับมา....
................พร้อมกับน้ำตา............เปื้อนยิ้ม
กับมือล้าๆที่กำแน่นด้วย .........เหรียญทอง
เพื่อ.............คนที่เรารักที่สุด
................................สาธุ..................................

วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2552

เสียงกระซิบ

อยากพูดสองคำสั้นๆ......
คิดถึง....และเสียดาย
ไม่รู้ว่าทำไม จะโชคดีหรือร้ายกันแน่..
แต่เราก็ติดบ่วงอย่างจัง และมันคง................ยากถอนตัว..ไปอีกนาน
ทำไมต้องคิดถึง ทำไมถึงอยากเจอ ถึงผูกพัน
ไม่รู้
รู้แต่ว่าถึงตอนนี้..มันเป็นไปแล้ว
เราอาจบ้าไปเอง..แต่ก็นั่นแหละมันเป็นไปแล้ว
ที่น่าเศร้า..
เชื่อไหมว่าใครบางคน ไม่รู้ซักนิด
เฮ้อก็เรามันไม่อาจจะพูด แม้เพียงครึ่งของถ้อยคำ
...ทีมันเต็ม..อยู่ในใจ
และกลัวว่าถ้าพูดไป ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม
เรามันก็แค่คนอื่นสำหรับเขา..เท่านั้น
"..ยิ่งคิดบางครั้งชั้นก็ ท้อใจด้วยจนหนทาง รักเอ๋ยช่วยเผยอำพราง เปิดทางให้บ้างสร้างสะพานรัก.."
รู้ไหมว่า คิดดูแล้วมันไม่มีทางจริงๆ
ที่ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น...
..เอ้อ!! นอนจามทุกวันแล้วไม่รู้สึกก็ตามใจ..
.................เสียดาย
ที่วันเวลา ที่อย่างน้อยเราก็ใกล้กันที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
มันกำลังจะผ่านไป
....เหลือแต่ความทรงจำเลือนลางเมื่อเริ่มเทอมหน้า
...เขาคงแค่คิดว่า เคยรู้สึกแบบนี้..
เราก็เคยคิดจะบอกกับเขานะ
อยากสารภาพไป.............แต่ก็กลัวว่ามันจะเหมือนบ้าที่อยู่ดีๆก็มาบอกรัก
คงเหมือนโง่สิ้นดีถ้าเขาไม่เคยรู้สึกดีๆกับเราแบบนั้น
เสียดายช่วงเวลานี้จัง
ปิดเทอมนี้คงลืมเราแล้วละ
T-T
ก็ได้แค่เก็บเรื่องบางอย่างไว้ที่มุมนี้
รอคอยซักวันที่สัญญาณของเขาแจ่มชัด
หรือวันที่เขาท้อ
เราจะอยู่ตรงนี้..เสมอ...
ก็มันทำได้แค่นั้น.................
ถ้าเกิดคำสารภาพเบาๆนี้จะได้ยินผ่านลมไปถึงใครคนนั้น
...อยากบอกให้รู้ว่า ใครบางคนรอเพียงคำๆเดียวว่าคิดตรงกัน
แล้วเขาจะขอติดตามดูแลตลอดไป...

วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เรื่องเล่าของใครบางคน

ในบางที เรื่องเล็กๆสำหรับใครหลายๆคน
อาจเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของใครบางคน.....
เคยแล้วที่ต้องทรมานใจอย่างหนักหน่วง กลับมาได้แค่นี้ก็ดีถมไปแล้ว
เชื่อได้ว่าบางทีเรามองท้องฟ้าที่ไพศาลเบื้องหน้า
ท้องฟ้าคงไม่เคยมองกลับมาเห็นเราหรอก
แต่อย่างน้อย....
เราก็ยังได้เฝ้ามองท้องฟ้า โดยที่ท้องฟ้าไม่รำคาญเรา
นั่งมองสบายๆแล้วหลับตา....รู้สึกถึงความสบายใจ
บางทีคนเราคงไม่ต้องมีอะไรมาก
...แค่มีคนที่เราชอบ และคนๆนั้นไม่โกรธหรือรำคาญเรา
แค่นี้ก็สุขใจ...เกินพอแล้ว

วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เฮ้อ (กาพย์ฉบัง 16)

แต่งวันศุกร์ตอนอยู่ห้องฟิสิกส์แล้วไม่มีอะไรทำก็มันเซ็ง

๑ โอ้คือกรรมเราหรือไร เมื่อย่างเข้าใกล้
ทำหมองทำหมางเหลือหลาย
ให้เราเจ็บปวดเจียนตาย ฤทัยมลาย
ไปกับความเหินห่างนัก
ที่เธอทำให้ประจักษ์ โอ้ว่าความรัก
มันช่างทรมานใจคน
ให้เจ็บให้เศร้าหมองหม่น ย่อยยับอับจน
ในห้วงห่วงหาอาทร
ให้หัวใจบทจร เจ้ายังรานรอน
ไม่รักษาใจเราเลย
ก่อนหน้านี้ข้ามิเคย ฝากผู้ใดเลย
กับเจ้าเพียงเป็นผู้เดียว
แต่ไยเจ้าแลเหลียว ไม่อยากข้องเกี่ยว
เราเลยนักหรืออย่างไร
ที่รักโปรดเฉลยไข ให้พี่คลายใจ
สิเหน่หาที่หนักหน่วง
มันเป็นประดุจดั่งบ่วง รักเอยล่อลวง
ให้คิดถึงทุกวันคืน
ไม่สิ้นแม้ยามดึกดื่น ฝันถึงทุกคืน
ไม่เห็นใจบ้างหรือไร
เดี๋ยวมาต่อนะ มันเว่อร์ๆไปหน่อย ค้างไว้ก่อน

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ข้าพเจ้ากำลังติงต๊องโดยสุจริตและชอบธรรม

เคยบ้างไหมที่รู้สึก....
เหนื่อยและท้อ.....มันหนักๆในใจชอบกล
เฝ้ามองเย็นของวันธรรมดาที่ผ่านไป..
ไม่มีใครรู้ อย่างน้อยก็หนึ่งคน ที่ไม่เคยรู้เลยว่าเราเฝ้ามองอะไร...
เหมือนคนบ้าที่รอคอยแต่สิ่งที่เราก็รู้ว่าไม่มีวันมาถึง
รอคอยปาฏิหาริย์..............ที่จะไม่มีวันเกิดขึ้น
ไอ้บ้าเอ้ย
ถ้าฟัง
เพลงน่ารัก คงจะเข้าใจและสงสารยิ่งนัก
..ยิ่งคิดบางครั้งฉันก็..ท้อใจด้วยจนหนทาง..
เฮ้อ!!!
ใครบางคนช่างโหดร้ายจริงๆ 555+
ถ้าใครเคยพูดถึงสิ่งที่เข้าใจยากที่สุดในโลก ....
อย่างที่คิดนั่นแหละใช่
ใครบางคนอีกนั่นแหละทำให้ใครอีกคน ท้อ สงสัยและทำตัวไม่ถูก
..มันงงนะ ก็เคยคิดว่าคิดตรงกัน
แต่แล้ว........................
ไงกลับตาลปัตร
เรา
กลายเป็นสิ่งน่ารำคาญ (ใช่ป่าว?)
ทำเหมือนไม่อยากเห็นทั้งที่ใครที่น่ารำคาญกำลัง
...........
และสุดท้ายก็ต้องผิดหวัง
อย่าเดาเลยอนาจ
พูดหรืออะไรก็น่ารำคาญไปหมด
แค่อยากพูดสั้นๆว่า
ขอโทษถ้าสิ่งที่ทำมันน่ารังเกียจนัก
และอีกไม่นานสิ่งน่ารำคาญผู้นี้จะ
ลาจากไปอยู่ส่วนของตน
กับความรู้สึกที่จะจดจำและเตือนใจตนไปตลอด
บายๆๆ
ฮึถึงอย่างไรคนที่พูดถึงก็ไม่ได้ยินอยู่ดี
สำหรับบางเรื่อง
ปาฏิหาริย์คง..............ไม่มีจริง

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ระบาย 3

เช่นเคยจนอาจกลายเป็นธรรมเนียมที่จะทักทายว่าอีกแล้วที่บทความนี้ห่างไกลจากคำว่าวรรณศิลป์นัก และเช่นเคยอีกเช่นกันนี้เอาไว้เมื่อถึงเวลาอันควรเราจะเข้ามาลบมันทิ้งเสีย หลายๆอย่างผ่านไปเร็วๆนักในช่วงเวลาไม่กี่วัน ในช่วงนั้นบางครั้งละกระมั้งที่เกิดความรู้สึกโดดเดียวและสิ้นหวัง ดังที่เคยให้คำมั่นในการระบายครั้งก่อน เคยตั้งใจไว้ว่าเป็นไปได้ที่คนเราจะเหนี่ยวใจแต่ถ้าอดทนไปซักพักมันก็จะหายไป อันนี้จริงอยู่ วันนี้สำนวนอาจไม่เข้าถึงอารมณ์เท่าไหร่นับเป็นเรื่องดีก็แล้วกัน แล้ววันพุธแห่งรด.ธรรมดาๆก็ผ่านไป มันอาจวันธรรมดาในสายตาใครหลายคน แต่สำหรับเรามันพิเศษอยู่มิใช่น้อย ดังที่พูดในครั้งก่อน อย่างน้อยเราก็อบอุ่นใจแล้วที่ที่ไหนสักแห่งบนฟ้านั่น รับรู้และเข้าใจในคำขอของใครสักคนที่ห่างไกลเช่นนี้
ขอบคุณ....ในความรู้สึกอบอุ่นใจที่แม้จะไม่มากมายแต่ก็ซาบซึ้ง แล้เราสัญญาว่าต่อให้ต้องเหนี่อยสักเพียงไรเราก็จะทำตามปณิธานแห่งเราให้จงได้ ขอสัญญา...
แหมสำนวนมันไม่ค่อยได้อารมณ์เลยใครอยากอ่านก็อ่านเล่นๆแล้วกัน เฮ้อเทนนิส... พรุ่งนี้ตารางจะออกแล้วไม่รู้ว่าจะหัวก้อยอย่างไร เราเล่นมา 4 ปีไมเคยได้บายสักปี ปีนี้ทำใจไว้แล้วไม่ได้หรอก ไม่ใช่พูดแล้วได้ที่จะขำเสียแทบแย่ แล้วเราก็ตั้งใจแล้วว่าถึงไม่ได้บายจะทำให้ดีที่สุด รู้สึกกลัวอย่างไรไม่รู้ กลัวจะแพ้ เล่นมา ตั้งหลายปีแล้วไม่เคยประสบความสำเร็จสักทีอย่างที่บอกว่าเมื่อไรหนา วันของเรา อยากนะ อยากได้มีโอกาสขึ้นไปรับเหรียญทองกับเขาบ้าง คงน้ำตาไหลเลย เราเจ็บมามากกับเทนนิส แต่ที่มากกว่าคือทำให้คนอื่นคือเสียใจและผิดหวัง หรือเราจะไม่มีวันเอาชนะเทนนิสได้ ไม่สิ..ต้องพยายาม ปีนี้รู้สึกใจนิ่งแต่จะนิ่งแล้วมีผลอะไรไหมไว้คอยดูกันไป ไม่หวังให้ผลประกบคู่ออกมาดี แต่ปฏิญาณว่าจะสู่จนถึงที่สุดโดยไมปริปากโทษสิ่งใดเลย จะยอมแลกทุกหยาดเหงื่อกับเหรียญเลย.....
อวยพรด้วยนะแล้วจะมาเล่าให้ฟัง รอ 20.44ก่อนจะไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยวเน่า เอาละได้เวลาบาย